การมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์ โดยเราจะแนะนำและเปรียบเทียบความแตกต่างของช่องทางในการเปิดร้านออนไลน์ จากข้อดี ข้อเสีย ของทางเลือกต่างๆ ในการเปิดร้านออนไลน์ ทั้งการเปิดร้านบนแพลตฟอร์มและการทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่มีธุรกิจออนไลน์อยู่แล้วแต่ยังไม่ตอบโจทย์ และผู้ที่ยังอยู่บนระบบออฟไลน์แต่ยังติดปัญหาที่แพลตฟอร์มในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ ซึ่งมีทางเลือกอยู่ 2 ช่องทางใหญ่ๆ คือ
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะใช้งานง่าย มีระบบจัดการสินค้า ตะกร้าสินค้า และการชำระเงิน เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ใช้งาน ไม่ต้องทำการตลาดมาก ซึ่งในทางกลับกันก็จะมีคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันเป็นตัวเลือกอยู่มากมายบน Platform ทำให้มีการแข่งขันด้านราคากันสูง นอกจากนี้ยังถูกหักส่วนแบ่งจากการขาย (GP) จากแพลตฟอร์ม ซึ่งหลายๆ ครั้งมีแต่ยอดขายแต่ไม่เหลือกำไรในการขายสินค้าหรือในบางครั้งก็อาจจะขาดทุน
- พัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน: เหมาะสำหรับบริษัทหรือร้านค้าขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการสร้างระบบ eCommerce ของตัวเอง เพื่อสามารถกำหนดและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของหน้าเว็บหรือแอปพลิเคชันได้ตามความต้องการ ทั้งการจัด Promotion ที่มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานได้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจมากกว่า และยังไม่ต้องแข่งขันกับสินค้าประเภทเดียวกันที่ตัดราคาเหมือนอยู่บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียค่าส่วนแบ่งจากการขาย (GP) ที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งแทบจะไม่เหลือกำไรจากการขาย เรียกได้ว่าลงทุนตอนแรกเริ่มเพียงครั้งเดียวก็สามารถมี Brand Store Website เป็นของตัวเองได้โดยไม่ต้องเสียส่วนแบ่งจากการขายที่มากเกินความจำเป็น
เมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการทำเปิดร้านออนไลน์ทั้ง 2 ประเภทด้านบนจะพบว่าในระยะสั้นหรือธุรกิจขนาดเล็กมากๆ นั้นเหมาะสำหรับการเปิดร้านบน “แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ” มากกว่าเพราะมีขั้นตอนที่ง่ายและไม่ต้องการความรู้ความเข้าใจในระบบที่ซับซ้อนมากมาย เพราะส่วนแบ่งที่เกิดจากยอดขายที่เกิดขึ้นนั้นไม่คุ้มค่าที่จะพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นสำหรับขายสินค้าออนไลน์เอง แต่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่นั้น การมี Brand Online Store สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้มากกว่าการเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะเมื่อสินค้าหรือบริการนั้นเป็นที่ต้องการของตลาดสูงและมีความเฉพาะทางของสินค้า เพราะสามารถออกแบบระบบให้เข้ากับสินค้าหรือบริการได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งการมีแบรนด์เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นในปัจจุบันนั้นไม่จำเป็นต้องมีทีม IT ในการพัฒนาระบบหรือ Maintenece ระบบเหมือนในอดีตที่ผ่านมาเพราะในปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่เป็น End-to-End Solution Provider สำหรับธุรกิจ eCommerce อย่าง WeOmni ซึ่งพร้อมให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษา วางแผนพัฒนาระบบ ไปจนถึงรับดูแลระบบและคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้น ซึ่ง WeOmni อยู่เบื้องหลังความสำเร็จให้กับระบบ eCommerce ของบริษัทชั้นนำที่มียอดขายกว่า สามพันล้านบาทในธุรกิจ eCommerce คุณจึงมั่นใจได้ว่าระบบ eCommerce Brand Store ของคุณจะพร้อมเดินหน้าสร้างความเติบโตทางธุรกิจออนไลน์ของคุณได้โดยตลอด 24 ชั่วโมง
ติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาด้านระบบ eCommerce ฟรี
>>> คลิก <<<
… … …
ติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของเราได้ที่ช่องทาง Facebook Fanpage, Linkedin
