WeOmni

WeOmni แบรนด์ภายใต้ Ascend Commerce จัดสัมมนาในหัวข้อ “eCommerce 2023 Trends: How to grow your online business and Leverage Big Data”

Ascend Commerce จัดสัมมนาในหัวข้อ “eCommerce 2023 Trends: How to grow your online business and Leverage Big Data” เพื่ออัปเดตเทรนด์ตลาดอีคอมเมิร์ซ และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างถูกทางด้วยการใช้ Big Data โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้าองค์กรและพาร์ทเนอร์ ให้ก้าวทันเทรนด์ เป็นผู้นำในสมรภูมิการแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ณ  ห้อง Classroom 1 อาคาร True Digital Park West 

ซึ่งในงานได้มีหลากหลายข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมมากมาย โดยสามารถสรุปออกมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจได้ดังนี้

1. Solution Partner

Pain Point ในตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่ผู้ประกอบการยังไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ทั้งเรื่องส่วนแบ่ง GP จาก การขายสินค้าผ่าน Platform ชื่อดัง, ขาดระบบการจัดการด้านการขายที่ดี และขาดฟีเจอร์ที่จะชูเอาจุดเด่นของธุรกิจมาต่อยอด ส่งผลให้ไม่สามารถสร้างความแตกต่างและเติบโตบนตลาดอีคอมเมิร์ซได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งแอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ผู้เป็น Solution Partner ในรูปแบบ One Stop Service นั้นมี Solution พร้อมใช้งานที่ตอบโจทย์และสามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจได้ทุกรูปแบบ และรองรับการสเกลเพิ่มขนาดของระบบได้ในอนาคต ผ่านโซลูชั่น 3 รูปแบบ คือ 

  • Tech outsourcing
    ให้บริการผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์งานด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร ในรูปแบบโปรเจกต์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงพร้อมใช้งาน หรือในรูปแบบทีมงานทางเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลืองานเฉพาะทาง
  • Software as a Service
    แพ็กเกจซอฟต์แวร์สำเร็จรูปพร้อมใช้ เริ่มต้นมีแบรนด์อีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ได้ทันที รองรับการปรับแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความง่ายดายต่อการใช้งาน มีทั้งระบบหน้าร้านและหลังร้านให้เลือกใช้บริการตามความต้องการ
  • Point Of Sale
    ผู้ช่วยจัดการร้านค้าและซอฟต์แวร์อัฉริยะ พร้อมใช้งาน ให้การจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าคุณจะมีกี่สาขา กี่รายการสินค้า ก็พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ มีแพ็กเกจหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามขนาดของธุรกิจ

2. Marketing

แชร์ 3 กลยุทธ์หลักที่ผลักดันให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดดและโดดเด่นในสมรภูมิอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยเทคนิคทางการตลาดที่ดี สร้างความแตกต่างเชิงบวก ประกอบไปด้วย

  • การออกแบบหน้าร้านและภาพประกอบสินค้าต้องชัดเจน
    สร้างสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ซื้อ ทั้งการใช้สี ภาพประกอบ และข้อมูลสินค้า แทรกลงไปในภาพแรกให้ชัดเจน ช่วยดึงดูดลูกค้า สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มความแตกต่างให้ร้านค้าได้
  • สร้างโปรโมชั่นให้มีประสิทธิภาพ ควรเข้าร่วม Platform แคมเปญ เช่น Double-Digit หรือ Flash Sale อยู่เสมอเพื่อสร้าง Brand Awareness ต่อผู้ใช้งาน แต่ก็ควรทำร่วมกับโปรโมชั่นช่องทางอื่นที่ให้ผลลัพธ์ที่สูงในการลงทุกที่ต่ำกว่า อย่าง Google Performance Max ที่แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ได้ช่วย Lotus’s ในการลงโฆษณาผ่านช่องทางนี้เป็นรายแรกในไทย ที่ใช้ CPC (Cost-per-Click) ลดลงถึง 50% แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม
  • Ads & Affiliate: KOL และ Affiliate ตัวช่วยอย่างก้าวกระโดด
    การตลาดในปัจจุบันไม่ได้ผลเพียงแค่ฝั่งผู้ผลิต-ผู้จัดจำหน่าย เพียวอย่างเดียวเสมอไปแล้ว เพราะลูกค้ามองหาความเห็นจากหลายช่องทางมากขึ้น เสาะหาข้อมูลประกอบมากขึ้น การมีผู้ช่วยในการทำการตลาดอย่าง KOL (Key Opinion Leader) และการเปิดทางให้ผู้อื่นช่วยบอกเล่าสินค้าผ่าน Affiliate Marketing ทั้งสองช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าอย่างเป็นกันเองและน่าเชื่อถือ 

นอกจากนี้ Time-base Marketing ซึ่งเป็นการนำเอาเทรนด์การใช้งาน Social Media ในช่วงเวลาต่างๆ มาใช้คาดการณ์การประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกัน เช่น ใช้การโปรโมทเนื้อความเบาๆ ในช่วงเช้า เนื้อหาเรียกความสนใจในช่วงกลางวัน ก็ช่วยผลักดันให้การตลาดบนอีคอมเมิรซนั้นประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นด้วย

3. BI (Business Intelligence)

ในยุค Big Data ที่มีข้อมูลมหาศาลผุดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในทุกวินาที การนำเอาข้อมูลมาจับคู่กับสินค้า, ลูกค้า จะช่วยตอบโจทย์ทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่นที่ Ascend Commerce ได้ช่วย Lotus’s ในการสต๊อกสินค้าที่สาขาของภูมิภาค โดยนำข้อมูลที่ได้จากแต่ละสาขามาเชื่อมต่อเป็นระบบอัตโนมัติเข้าส่วนกลาง แล้วกางออกมาเป็น Dashboard ภาพใหญ่ที่ชัดเจนและนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ง่าย ซึ่งแอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ได้ต่อยอดพัฒนา Tools และ Analytics ที่แสดง Performance ของร้านค้าออนไลน์แต่ละ Platform รวบรวมไว้ใน Dashboard เดียว เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลในภาคธุรกิจอื่นๆที่ต้องการนำเครื่องมือนี้ไปใช้

4. Centralized Platform

ต่อเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา การทำการตลาดและค้าขายในปัจจุบันจึงเน้นออกไปหลายช่องทาง (Omnichannel) ซึ่งตามมาด้วย Operation ที่แบ่งแยกการจัดการออกจากกันในแต่ละช่องทาง ดังนั้นการจัดการแบบรวมศูนย์ที่ระบบเดียว จึงช่วยลดความสับสนและปัญหาของ Operation เหล่านี้ลงได้

  • ลิงค์ทุก Platform เข้าด้วยกัน: ซึ่งบริการของเราครอบคลุมตั้งแต่ระบบการจัดการคำสั่งซื้อ (OMS) การจัดส่ง (Logistic) ไปจนถึงการทำรายงาน (Report) เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ต่อยอดทางการตลาดได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังรองรับการกระจายสินค้าไปขายผ่าน Platform ออนไลน์หลากหลายเจ้า โดยใช้ชุดข้อมูลและปริมาณสต๊อกจากศูนย์รวมที่เดียว
  • ลดการทำงานซ้ำซ้อน: ลดขั้นตอนการทำงาน และความผิดพลาดจากการทำงานซ้ำซ้อนในแต่ละ Platform ด้วยการใช้ข้อมูลชุดเดียวได้ในทุกช่องทางการค้า เพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบและแก้ไข
  • ทีมจัดการโลจิสติกส์เป็นหนึ่งเดียว: WeOmni มีทีม fulfillment ที่เชื่อมโยงระบบเดียวกันอย่างลื่นไหล ลดข้อผิดพลาด หรือออเดอร์ตกหล่น

Ascend Commerce ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกท่านที่ได้มาร่วมกันอัปเดตเทรนด์ตลาดอีคอมเมิร์ซ และได้เปิดโอกาสในการนำเสนอโซลูชั่น รวมถึงการใช้โอกาสนี้เป็นพื้นที่ในการปรึกษาสอบถามความสงสัยต่าง ๆ ในรูปแบบ Face to Face โดยแอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ยังเปิดโอกาสให้ทุกท่าน แม้จะไม่ได้เข้าร่วมสัมนาครั้งนี้ สอบถามวิธีทางหรือโซลูชั่นทางอีคอมเมิร์ซได้ผ่านทาง   >> คลิกที่นี่ << โดยจะมีทีมงานติดต่อท่านกลับอย่างรวดเร็วที่สุด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะมีโอกาสได้เป็นพาร์ทเนอร์กันในอนาคตต่อไป

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของเราได้ที่ช่องทาง Facebook FanpageLinkedin หรือดูข้อมูลและติดต่อรับคำปรึกษาได้ที่เว็บไซต์ของเรา